สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญงานศิลปะกับอ.อิ๊ดแห่ง ART 103
ศิลปะกับมนุษย์
ตามความเข้าใจของทุกคน ต่างทราบดีว่า สิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ที่อยู่บนโลกใบนี้ คือ ปัจจัยสี่ ประกอบไปด้วย ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อป้องกันอันตรายจากภายนอก ต้องการอาหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เจริญเติบโต ต้องการเสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มไว้ปกปิดร่างกายป้องกันความร้อน ความหนาวเย็น ต้องการยารักษาโรคเพื่อรักษาโรคภัยต่าง ๆ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีความสำคัญและจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ ซึ่งจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งมิได้ และจะต้องให้ความสนใจ เอาใจใส่ในการดูแลเรื่องดังกล่าวเหล่านี้
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจัยสี่คือ สิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ มนุษย์ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อป้องกันภัยอันตรายจากภายนอก มนุษย์ต้องการอาหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มนุษย์ต้องการอาหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มนุษย์ยังต้องการเสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มไว้ปกปิด ร่างกายจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว และมนุษย์ยังต้องการยา เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้ว แต่เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์อย่างยิ่งเมื่อมนุษย์ตระหนักถึงความสำคัญมนุษย์ จึงต้องให้ความสนใจและเอาใจใส่ดูแลในเรื่องดังกล่าว การให้ความสำคัญในรายละเอียดต่าง ๆ จึงถูกนำมาพิจารณา และปรุงแต่งปัจจัยให้สนองความต้องการ และแสดงถึงคุณค่าของความงามสิ่งนั้นศิลปะหากมนุษย์ยอมรับว่าศิลปะคือ การแสดงออกของอารมณ์ตามความพอใจ ศิลปะก็จะมีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่สนองความต้องการทางอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง หากมนุษย์มีความเครียด ศิลปะสามารถสร้างความเบิกบานให้ แสดงว่าเขาผู้นั้นเข้าถึงศิลปะ
นอกจากนี้การเข้าถึงศิลปะจะทำให้มนุษย์มีรสนิยมที่ดี การมีรสนิยมจะเกี่ยวข้องกับศิลปะและการออกแบบ รสนิยมเป็นความพอใจของมนุษย์ที่นำหลักการทางศิลปะมาผสมผสานให้เกิดความพอดี เพราะความพอดีและความพอใจ หากมนุษย์เข้าถึงศิลปะได้มากเขาผู้นั้นก็จะมีรสนิยมที่ดีดังนั้นศิลปะจึงมีประโยชน์ต่อมนุษย์และต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน
การนำศิลปะมาใช้ในชีวิตประจำวันเป็นการนำหลักการทางศิลปะมาผสมผสานกับการดำรงชีวิตอันได้แก่
ศิลปะกับที่อยู่อาศัยศิลปะกับอาหารศิลปะกับเครื่องนุ่งห่ม
ศิลปะกับที่อยู่อาศัยมนุษย์เหมือนสัตว์ทั่วไปที่ต้องการสถานที่ปกป้อง คุ้มครองจากสิ่งแวดล้อมรอบกาย ไม่ว่ามนุษย์จะอยู่แห่งใด สถานที่อย่างไร ที่อยู่อาศัยจะสร้างขึ้น เพื่อป้องกันภัยอันตรายจากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำคัญและจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ มนุษย์จึงมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสนองความต้องการและความพอใจของแต่ละบุคคลมนุษย์ทุกคนมีการพัฒนาการในชีวิตของตนเองมนุษย์จึงนำพัฒนาการเหล่านี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ การพัฒนาที่อยู่อาศัยจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญสำหรับมนุษย์ที่อยู่อาศัยในปัจจุบันถูกพัฒนาให้ทันสมัยกว่าในอดีตเนื่องจากต้องปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลง แต่ในการปรับปรุงนั้น ควรคำนึงถึงสภาพทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นควบคู่กันไปการพัฒนาที่อยู่อาศัยนั้นจึงจะเหมาะสมและสนองความต้องการอย่างแท้จริง
ที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะบ้านในปัจจุบัน จะมีรูปแบบที่เรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติและคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก และเน้นในเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามรสนิยมการบริโภค นอกจากนี้ในการจัดตกแต่งภายในจะมีการผสมผสานการตกแต่งแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดผลงานการตกแต่งในรูปแบบ Contemporary และ Oriental ที่ใช้งานได้สะดวกตามรูปแบบตะวันตก
ปัจจัยอีกประการหนึ่งในการจัดตกแต่งภายในบ้านคือการนำหลักการทางศิลปะมาผสมผสานเข้ากับการตกแต่ง เพื่อให้การดำรงชีวิตภายในบ้านสะดวกทั้งกายและใจ และแสดงออกถึงความงดงาม และมีรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของบ้าน องค์ประกอบทางศิลปะจึงถูกนำมาเกี่ยวข้อง องค์ประกอบทางศิลปะที่นำมาใช้ในการจัดแต่งแต่งที่อยู่อาศัย
ศิลปะเกี่ยวกับการจัดอาหาร
อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญของมนุษย์ อาหารนอกจากสนองความต้องการทางกายของมนุษย์แล้ว อาหารยังสนองความต้องการทางด้านจิตใจ สังคมและวัฒนธรรม ดังนั้นในการบริโภคอาหารผู้จัดอาหารจึงต้องใช้ศิลปะในการสร้างสรรค์ตกแต่งอาหาร เพื่อให้อาหารเป็นเครื่องจรรโลงใจในขณะเดียวกันศิลปะเกี่ยวกับการอาหาร มีองค์ประกอบศิลปะที่นำมาเกี่ยวข้องในการจัดอาหาร
1. ขนาดและสัดส่วน (Size and Proportion)ในการจัดอาหาร ขนาดและสัดส่วนนำมาเกี่ยวข้องในการจัดอาหารในภาชนะ หากภาชนะมีขนาดเล็ก อาหารในจานควรมีปริมาณที่พอดี ไม่มากจนล้นหรือเลอะออกมานอกภาชนะ เพราะจะทำให้ไม่น่ารับประทาน ในการจัดอาหารบนโต๊ะ หากโต๊ะมีขนาดเล็กภาชนะที่ใช้ควรมีสัดส่วนที่พอเหมาะไม่ใหญ่จนแน่นโต๊ะ หรือเล็กจนตักอาหารไม่ถนัด
2. ความกลมกลืน (Harmony)ความกลมกลืนในการจัดอาหารจะเกี่ยวข้องกับอาหารและภาชนะอาหารควรเหมาะสมและกลมกลืนกับภาชนะอาหารประเภททอดควรใส่ในจาน หรืออาหารประเภทน้ำควรใส่ในชาม นอกจากนี้ผลไม้ควรใส่ตะกร้าหรือถาดไม้จะเหมาะสมกว่าใส่ในถาดโลหะ อาหารบางประเภทควรคำนึงถึงความกลมกลืนของภาชนะเช่นกัน เช่น อาหารภาคเหนืออาจเสิร์ฟในขันโตก หรืออาหารภาคกลาง เสิร์ฟในจานที่ดูดสวยงาม สะอาด หรือมีขอบเป็นลวดลายไทย เป็นต้น
3. การตัดกัน (Contrast)ศิลปะในการตัดกันของการจัดอาหาร ทำได้โดยการตัดกันระหว่างการตกแต่งโต๊ะอาหารและการจัดอาหาร สีของอาหารหรือการตกแต่งอาหาร แต่ในการตัดกันไม่ควรตัดกันในปริมาณที่มาก เพราะจะทำให้ขาดความน่าสนใจ ในปัจจุบันการจัดตกแต่งโต๊ะอาหารนิยมจัดดอกไม้ให้สูงเกินมาตรฐานการจัด เพื่อสร้างความสนใจและความโดดเด่นของบรรยากาศ แต่ในการจัดควรระมัดระวังเพราะจะทำให้รกและขัดต่อการสนทนาได้ ส่วนสีของอาหารหรือการตกแต่งอาหารสามารถตัดกันได้ตามความเหมาะสมของความสวยงาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น